รายงานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ครั้งที่ 4/2564
ระเบียบวาระที่ 1 เรื่องประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
ระเบียบวาระที่ 1 เรื่องประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
ประธานกรรมการ (รองศาสตราจารย์ศักรินทร์ ภูมิรัตน) กล่าวเปิดการประชุม และขอบคุณ ผู้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ครั้งที่ 4/2564
ระเบียบวาระที่ 2 เรื่องรับรองรายงานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ครั้งที่ 3/2564
ระเบียบวาระที่ 2 เรื่องรับรองรายงานการประชุม
ระเบียบวาระที่ 2.1 เรื่องรับรองรายงานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ครั้งที่ 3/2564
คณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ มีการประชุมครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ต่อมาฝ่ายเลขานุการฯ ได้จัดทํารายงาน การประชุม และแจ้งเวียนให้กรรมการพิจารณาเรียบร้อยแล้ว โดยไม่มีกรรมการขอแก้ไขรายงานการประชุม
มติที่ประชุม รับรองรายงานการประชุม ครั้งที่ 3/2564
ระเบียบวาระที่ 3 เรื่องเพื่อทราบ
ระเบียบวาระที่ 3.1 ความก้าวหน้าการจัดทำหลักเกณฑ์การขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการด้วยผลงานด้านนวัตกรรม
ฝ่ายเลขานุการฯ นําเสนอความก้าวหน้าการจัดทําหลักเกณฑ์การขอกําหนดตําแหน่งทาง วิชาการด้วยผลงานด้านนวัตกรรม ดังนี้
1. สืบเนื่องจากคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาเกณฑ์ในการกําหนดตําแหน่ง ศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ที่ไม่อาศัยงานตําราหรืองานวิจัย ได้มีคําสั่งแต่งตั้ง คณะทํางานสนับสนุนการทํางานของคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจฯ โดยแบ่งการทํางานออกเป็น 5 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการสอน 2) ด้านนวัตกรรม 3) ด้านทัศนศิลป์ ศิลปะการแสดง การออกแบบ และดุริยางคศิลป์ 4) ด้านศาสนา และ 5) ด้านรับใช้สังคม ซึ่ง สอวช. ได้รับมอบหมายให้ร่วมดําเนินการด้านนวัตกรรม
2. การดําเนินงานที่ผ่านมา สอวช. ได้จัดทํา (ร่าง) แนวทางและหลักเกณฑ์การขอกําหนดตําแหน่งทางวิชาการด้วยผลงานด้านนวัตกรรม โดยมีการศึกษาสถานภาพ และแนวปฏิบัติที่ดีของ ประเทศไทยและต่างประเทศ รวมทั้งประชุมร่วมกับคณะทํางานและคณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ ระดมความคิดเห็นกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงสัมภาษณ์เชิงลึกเกี่ยวกับแนวทางการประเมินผลลัพธ์และผลกระทบจาก การนําผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์
3. การจัดทําหลักเกณฑ์การขอกําหนดตําแหน่งทางวิชาการด้วยผลงานด้านนวัตกรรม เป็นส่วนสําคัญในการส่งเสริมระบบนิเวศนวัตกรรมทางด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาหรือประยุกต์ใช้ผลงานด้านนวัตกรรมให้ตรงตาม ความต้องการและความจําเป็นของประเทศ และสนับสนุนการพัฒนาเส้นทางอาชีพของบุคลากรให้สามารถ พัฒนาผลงานที่เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยขั้นตอนการดําเนินงาน ประกอบด้วย 1) การจัดทําแนวทางการกําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลงานด้านนวัตกรรม สําหรับ การเสนอขอกําหนดตําแหน่งทางวิชาการที่สอดคล้องกับเป้าหมายประเทศ 2) จัดทําคู่มือหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลงานด้านนวัตกรรม และ 3) จัดทํา Standard List ของผู้ประเมินผลงานด้านนวัตกรรม เพื่อ เป็นข้อมูลให้คณะกรรมการกลางในการพิจารณาผลงาน
4. หลักการ (Guiding Principle) การจัดทําหลักเกณฑ์การขอกําหนดตําแหน่งทาง วิชาการด้วยผลงานด้านนวัตกรรม ประกอบด้วย 1) จัดทําช่องทาง (Track) ใหม่ แยกจาก Track เดิมที่มีอยู่ 2) ส่งเสริมบุคลากรทํางานวิชาการ สร้างผลงานด้านนวัตกรรมที่สามารถนําไปใช้ประโยชน์ และเกิดผลกระทบต่อประเทศในวงกว้าง 3) พิจารณาผลงานที่ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ ได้แก่ การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และขจัดความยากจน การสร้างขีดความสามารถการแข่งขันของภาคการผลิตและบริการ การพัฒนา สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ และการพัฒนาการศึกษา สังคม สุขภาพและบริการภาครัฐ 4) กรอบแนวทางการจัดทําเกณฑ์การประเมิน พิจารณาจากการนําผลงานไปใช้ประโยชน์และ ก่อให้เกิดผลลัพธ์และผลกระทบในวงกว้าง 5) กําหนดแนวทางการพิจารณาอนุมัติ และ 6) การพิจารณา ผลประโยชน์ตอบแทน
5. การศึกษากรณีของประเทศนิวซีแลนด์และสหรัฐอเมริกาพบว่าประเทศดังกล่าวมี การตื่นตัวในการนําผลงานของนักวิชาการไปต่อยอดและถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อสร้างผลกระทบในวงกว้าง โดยแบ่งระดับของการพัฒนาผลงานนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีของประเทศไทยเป็น 2 ระดับ ได้แก่ ระดับที่ 1) Innovation Development/ Commercializable R&D stage และระดับที่ 2) Innovation Deployment/ Technology Transfer Stage นอกจากนี้ ได้มีการแบ่งระดับผลงานนวัตกรรมทางสังคมเป็น 2 ระดับ ได้แก่ ระดับที่ 1) Social Innovation Developmental Phase และระดับที่ 2) Social Innovation Scaling Phase รวมถึงได้กําหนดนิยามนวัตกรรม รูปแบบผลงาน ตามพระราชบัญญัติการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2562
6. แนวทางการพิจารณาแต่งตั้งอาจารย์ประจําให้ดํารงตําแหน่งทางวิชาการจากผลงานนวัตกรรม ได้กําหนดคุณสมบัติประจําตําแหน่งทางวิชาการ และผลงานนวัตกรรม ดังนี้
– ผู้เสนอผลงานจําเป็นต้องเป็นผู้นําหรือมีบทบาทสําคัญในการผลักดันการนําผลงานไปใช้ประโยชน์ และมีความสามารถในการสร้างทีมงานหรือเครือข่ายที่สอดคล้องกับระดับตําแหน่งทางวิชาการด้านนวัตกรรม (รองศาสตราจารย์และศาสตราจารย์)
– ผลงานต้องมุ่งเน้นให้เกิดนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ประเทศและมีระดับการนําผลงานไปใช้ประโยชน์ (Innovation Diffusion) โดยก่อให้เกิดผลลัพธ์ ผลกระทบ ต่อเศรษฐกิจและสังคมของ ประเทศ ซึ่งมีรูปแบบการแต่งตั้งอาจารย์ประจําให้ดํารงตําแหน่งทางวิชาการจากผลงานนวัตกรรม 2 รูปแบบ ได้แก่ 1) วิธีการปกติ และ 2) วิธีพิเศษ (เฉพาะรองศาสตราจารย์และศาสตราจารย์) ที่มีความแตกต่างของ เกณฑ์การพิจารณา ทั้งในด้านผลงาน วิธีการแต่งตั้ง และการประเมินผล
7. สรุปข้อเสนอแนะต่อร่างแนวทางและหลักเกณฑ์การขอกําหนดตําแหน่งทาง วิชาการด้วยผลงานด้านนวัตกรรม จากที่ประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจฯ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2564 ดังนี้ – ช่วงทดลองดําเนินการระยะแรก(3-5ปี) เสนอให้มี
การพิจารณาดําเนินการ ผ่านคณะกรรมการจากส่วนกลาง โดยคณะอนุกรรมการพิจารณากําหนดตําแหน่งทางวิชาการด้วย
ผลงานนวัตกรรมร่วมกับคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และตัวแทนจากภาคส่วนที่มี
ประสบการณ์เกี่ยวข้องกับงานด้านนวัตกรรม เช่น ด้านการศึกษา วิชาการ เศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ เป็นต้น – เสนอให้มีการปรับเกณฑ์การพิจารณาผลงานซึ่งเกี่ยวข้องกับจํานวนผลงานและ ระดับคุณภาพผลงาน รวมถึงเสนอให้กําหนดนิยามระดับคุณภาพผลงาน เพื่อให้การดําเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
– การประเมินผลลัพธ์และผลกระทบของผลงานด้านนวัตกรรม(Outcome/Impact Analysis) เพื่อใช้ประกอบการพิจารณา ควรดําเนินการโดยมหาวิทยาลัย หรือศูนย์อํานวยความสะดวก (Clearing House) ซึ่งคณะทํางานจะมีการเสนอไปที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เพื่อให้ มีการสนับสนุนเชิงนโยบายต่อไป
– ควรมีการจัดเวทีที่เปิดโอกาสให้มีการนําเสนอผลงานด้านนวัตกรรม เพื่อสนับสนุนให้เกิดการรับรู้และเข้าใจเรื่องการส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์ในวงกว้าง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านนวัตกรรม เช่น สอวช. สํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)สํานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) และหน่วยงานในท้องถิ่น ฯลฯ
ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของที่ประชุม
แนวทางการพิจารณาแต่งตั้งอาจารย์ประจําให้ดํารงตําแหน่งทางวิชาการจากผลงาน ด้านนวัตกรรม ควรพิจารณาประเด็น
เพิ่มเติม ดังนี้
– การตําแหน่งทางวิชาการควรคํานึงถึงการให้นักศึกษาเข้าร่วมการพัฒนานวัตกรรมด้วย เพื่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ควบคู่ไปด้วย
– การวิเคราะห์บทบาทการมีส่วนร่วมของผู้สมควรได้รับตําแหน่งทางวิชาการ ควรพิจารณาการได้รับตําแหน่งทางวิชาการในลักษณะของทีมวิจัย โดยพิจารณาตําแหน่งศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์จากการมีส่วนร่วมของทีมงาน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการทํางานร่วมกัน
– เนื่องจากทรัพย์สินทางปัญญามีหลายระดับ จึงควรกําหนดระดับผลงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา โดยกําหนดน้ําหนักคะแนนของระดับทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเหมาะสม
– ควรให้ความสําคัญกับความคิดริเริ่มในการพัฒนานวัตกรรม หรือความใหม่ของผลงานในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ และควรกําหนด รูปแบบความแตกต่างของผลงานที่เกิดขึ้นจากการดําเนินงานวิจัยในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งจะมีทั้ง การดําเนินงานเพื่อบริการวิชาการ และการทํางานวิจัย โดยพิจารณาว่ารูปแบบใด
สามารถนํามาใช้ในการขอกําหนดตําแหน่งทางวิชาการได้ รวมทั้งพิจารณาประเด็นการมีส่วนร่วมในการดําเนินงานร่วมกับ
ภาคเอกชนด้วย
มติที่ประชุม
รับทราบความก้าวหน้าการจัดทําหลักเกณฑ์การขอกําหนดตําแหน่งทางวิชาการด้วย ผลงานด้านนวัตกรรม และมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ นําข้อคิดเห็นและ ข้อเสนอแนะของที่ประชุมไปดําเนินการต่อไป
ระเบียบวาระที่ 4 เรื่องเพื่อเสวนา
ระเบียบวาระที่ 4.1 แนวทางการจัดสรรงบประมาณกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รองศาสตราจารย์พงศ์พันธ์ แก้วตาทิพย์ รองผู้อํานวยการสํานักงานคณะกรรมการ ส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และ นายณิรวัฒน์ ธรรมจักร ผู้อํานวยการภารกิจขับเคล่อื น ระบบวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สกสว. นําเสนอแนวทางการจัดสรรงบประมาณกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุนส่งเสริม ววน.) เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดังนี้
1. มาตรา5(2)แห่งพระราชบัญญัติการส่งเสริมวิทยาศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2562 กําหนดให้รัฐต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและ นวัตกรรม ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการและความจําเป็นของหน่วยงานรัฐในระบบวิจัยและ นวัตกรรม ซึ่งที่ผ่านมาการจัดทําคําของบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ตั้งแต่ พ.ศ. 2563 – 2564 มีรูปแบบ ดังนี้
– คําของบประมาณรายจ่ายประจําและรายจ่ายตามภารกิจของหน่วยงานที่ไม่ใช่โครงการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และโครงการวิจัยและนวัตกรรมให้เสนอต่อสํานักงบประมาณได้โดยตรง และให้สํานักงบประมาณจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรมแต่ละหน่วยได้
โดยตรง ตามมาตรา 17 (1) แห่งพระราชบัญญัติการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2562 – คําของบประมาณเพื่อโครงการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ โครงการวิจัยและนวัตกรรม ให้เสนอต่อคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) ตามหลักเกณฑ์ที่ กสว. กําหนด และให้ กสว. พิจารณาคําของบประมาณ และผลการดําเนินงานในปีที่ผ่านมา ของ แต่ละหน่วยงาน ประกอบการจัดสรรงบประมาณจากกองทุนส่งเสริม ววน. สนับสนุนหน่วยงานนั้นๆ ตาม มาตรา 17 (2) แห่งพระราชบัญญัติการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2562
2. กองทุนส่งเสริม ววน. มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และขับเคลื่อนระบบ การวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ
ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และสหวิทยาการ รวมถึงสร้างองค์ความรู้ พัฒนานโยบายสาธารณะ และสนับสนุนการนําผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้เชิง เศรษฐกิจและสังคม ให้เกิดการพัฒนาประเทศอย่างสมดุลและยั่งยืน
3. ที่ผ่านมากองทุนส่งเสริมววน.ได้รับงบประมาณจากสํานักงบประมาณในกรอบเดิม ของแผนงานยุทธศาสตร์การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเท่านั้น ยังไม่ครอบคลุมโครงการพัฒนาวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี เนื่องจากสํานักงบประมาณจัดสรรงบประมาณส่วนนี้ให้กับหน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรม โดยตรง และยังไม่มีการกําหนดนิยาม ขอบเขตของ “โครงการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” ที่ชัดเจน
4. “การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” ตามพระราชบัญญัติการส่งเสริม วิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2562 หมายถึง การดําเนินกิจการที่เป็นการเพิ่มพูนความรู้ และ ความสามารถทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม เพื่อ ยกระดับความสามารถในการผลิตและการบริการ ตลอดจนความสามารถในการแข่งขันด้านเศรษฐกิจของ ประเทศ และความเป็นอยู่ของสังคม โดยรวมถึงการพัฒนาบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาขีด ความสามารถในการรับและถ่ายทอดเทคโนโลยีทั้งภายในและจากต่างประเทศ เพื่อให้การพัฒนาประเทศ ครอบคลุมทุกด้าน
5. กรอบแนวคิด และแนวทางการจัดสรรงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี” มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้การดําเนินงานของกองทุนส่งเสริม ววน. สามารถสนับสนุนแผนงาน/ โครงการ/ กิจกรรม ได้ครอบคลุมและครบถ้วนตามที่กําหนดไว้ในพระราชบัญญัติการส่งเสริมฯ และบรรลุ เป้าหมายของการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ โดยนิยามโครงการพัฒนา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประกอบด้วย
– กิจกรรมที่นําองค์ความรู้จากการศึกษาวิเคราะห์หรือทดลองอย่างเป็นระบบ เพื่อเพิ่มความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทั้งในด้านการพัฒนาคนและโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึง กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาขีดความสามารถในการรับและถ่ายทอดเทคโนโลยี ทั้งภายในประเทศและ ต่างประเทศ และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมอย่างแพร่หลาย โดยให้มีเป้าหมายชัดเจนและสามารถวัดผลได้ ทั้งนี้ หากโครงการมีระยะเวลามากกว่า 1 ปี ต้องกําหนดเป้าหมายรายปี และแสดงผลเชิงประจักษ์ต่อ การพัฒนาประเทศ
– กิจกรรมสําคัญในระบบวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้แก่การผลิตและพัฒนา กําลังคนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Brain Power) การให้บริการเทคโนโลยีและการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีอย่างแพร่หลาย (Service and Technology Adoption) การพัฒนาเทคโนโลยีฐาน (Platform Technology) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Infrastructure and Facilities) การสื่อสารเพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ให้เกิดสังคมฐานความรู้ และการสร้างเครือข่ายเชิงกลยุทธ์ด้าน ววน. ที่สอดคล้องกับเป้าหมายและยุทธศาสตร์ อววน. (Communication and Networking)
6. ข้อเสนอแนวทางการจัดสรรงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีดังนี้ แนวทางที่ 1: ปรับการจัดสรรงบประมาณ “แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาศักยภาพ ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม” ซึ่งเดิมจัดสรรผ่านสํานักงบประมาณตรงไปที่หน่วยรับงบประมาณให้มาผ่านกองทุนส่งเสริม ววน. และกํากับดูแลโดย กสว.
แนวทางที่ 2: ปรับการจัดสรรงบประมาณโครงการที่สอดคล้องกับ “กรอบกิจกรรม โครงการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี” ซึ่งเดิมถูกจัดสรรผ่านสํานักงบประมาณ ผ่านแผนงานพื้นฐาน แผนงานยุทธศาสตร์ หรือแผนงานบูรณาการ ให้มาผ่านกองทุนส่งเสริม ววน. และกํากับดูแลโดย กสว.
ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของที่ประชุม
1) การขับเคลื่อนการปฏิรูป ควรให้การดําเนินงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บูรณาการเชื่อมโยงกับการดําเนินงานด้านการวิจัยและนวัตกรรม โดยที่ยังไม่ต้องคํานึงถึงเรื่องงบประมาณ แต่ควรคํานึงถึงประเด็น ดังต่อไปนี้
– ควรมีความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ประเทศเช่น ความสามารถด้านโครงสร้างพื้นฐานทางคุณภาพของประเทศ (National Quality Infrastructure หรือ NQI) ความสามารถด้านการพัฒนากําลังคน ความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เป็นฐานความรู้ ความสามารถด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยี และความสามารถด้านการวิจัยขั้นแนวหน้า (Frontier Research)
– ควรมีระบบข้อมูล ววน. ที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกกระทรวง อว. เพื่อ เป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ (Evidence-based) ต่อการตัดสินใจในการกําหนดเป้าหมาย การบริหารจัดการงบประมาณ และวางแผนการดําเนินงานเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ ผลกระทบที่สําคัญต่อประเทศ ตัวอย่างเช่น ข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานของหน่วยงานต่างๆ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (ตัวอย่าง ข้อมูล เช่น การใช้ประโยชน์ของโครงสร้างพื้นฐาน การใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน)
2) งบประมาณเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนการวิจัยและนวัตกรรมให้เกิดผลกระทบ ต่อการพัฒนาประเทศ และยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณมีหลายประเภท ได้แก่ งบยุทธศาสตร์ งบบูรณาการ รวมถึงงบประมาณสนับสนุนแผนงาน/โครงการตามมติคณะรัฐมนตรี ดังนั้น ควรมีการรวบรวมข้อมูลที่ เกี่ยวข้องทั้งหมด (ทั้งในและนอกกระทรวง อว.) เพื่อให้เห็นภาพรวมและการเชื่อมโยงการดําเนินงาน ทั้งนี้ มีประเด็นการจัดสรรงบประมาณในแต่ละประเภท ดังต่อไปนี้
– งบบูรณาการ ไม่ควรนํามารวมในกองทุนส่งเสริม ววน. ทั้งหมด เนื่องจาก งบประมาณประเภทนี้มีเจตนารมณ์ที่ชัดเจน (Spirit) คือ ต้องการบูรณาการการทํางานระหว่างหน่วยงาน และ เป็นงบประมาณที่มุ่งเน้นไปให้ผลลัพธ์และผลกระทบถึงผู้ใช้ประโยชน์ (User) อย่างแท้จริง ในขณะที่ การพัฒนา ววน. ของประเทศ มีเป้าหมายหลายมิติ (ไม่ได้มุ่งไปให้ถึงผู้ใช้ประโยชน์ทั้งหมด) จําเป็นต้องใช้ กลไก/เครื่องมือหลายแบบในการผลักดันให้เกิดผลจริง (Leverage)
– การลงทุนหรือการดําเนินงานที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานควรให้เป็นไปตาม ภารกิจพื้นฐานของหน่วยงาน โดยที่กองทุนส่งเสริม ววน. อาจเข้าไปสนับสนุนเพิ่มเติม เพื่อสร้าง ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
– การทบทวนและวิเคราะห์ข้อมูลการใช้จ่ายงบประมาณด้านววน.ที่ผ่านมา จะทําให้มองเห็นปัญหาของการจัดสรรงบประมาณได้ดียิ่งขึ้น
– งบประมาณเพื่อการพัฒนากําลังคนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีการดําเนินงานอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ดังนั้น ควรมีการประเมินผลกระทบในระยะยาวทั้งด้าน เศรษฐกิจและระบบการศึกษา ที่เกิดขึ้นจากการให้ทุนนักเรียน เพื่อนําไปสู่การพัฒนากําลังคนด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีที่เหมาะสม เช่น การพัฒนาทักษะกําลังคนระดับมืออาชีพ การพัฒนาระบบเชื่อมต่อ (Feeder System) ด้านการพัฒนากําลังคนตลอดทั้งกระบวนการ (Supply Chain) โดยร่วมมือกับกระทรวงอื่น ๆที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงศึกษาธิการ ในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ให้แก่เด็กและเยาวชน
3) การจัดสรรงบประมาณ ควรกําหนดเป้าหมายการพัฒนาด้าน ววน. ของประเทศ โดยทบทวนบริบทการเปลี่ยนแปลงของโลกร่วมด้วย และกําหนดประเด็นสําคัญ (Priority area) ด้วย เช่น โรค อุบัติใหม่ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Climate change) เป็นต้น และใช้ประโยชน์กลไกงบประมาณให้เกิด ความคุ้มค่าและเกิดผลสัมฤทธิ์ต่อเป้าหมายประเทศ
4) ควรให้ความสําคัญกับการกระจายอํานาจมากกว่าการรวมศูนย์ เพื่อมุ่งเน้นให้เกิด ความร่วมมือ และระดมทรัพยากรระหว่างหน่วยงาน โดยนําเป้าหมายของประเทศเป็นตัวตั้ง เพื่อให้เกิด ประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ และประชาชน
มติที่ประชุม รับทราบแนวทางการจัดสรรงบประมาณกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรม เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ นําส่งสรุปข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของที่ประชุมแก่ สกสว. ต่อไป
ระเบียบวาระที่ 5 เรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)
ระเบียบวาระที่ 5 เรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)
ประธานฯ ได้กําหนดให้มีการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปฯ ครั้งต่อไป ในวันที่ 6 กันยายน 2564 เวลา 11.00 – 13.00 น.
มติที่ประชุม รับทราบ